หากคุณเริ่มรู้สึกว่าการอ่านเอกสารต้องเพ่งมากขึ้น ใช้สมาร์ตโฟนเพียงไม่กี่นาทีก็รู้สึกปวดตา หรือมองป้ายไกล ๆ แล้วภาพดูพร่ามัว อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่เพียง “ความล้าของดวงตา” อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่อาจเป็นสัญญาณว่า ค่าการมองเห็นของคุณกำลังเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น การเรียนรู้วิธีวัดสายตาอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเข้าใจความหมายของตัวเลขบนใบผลตรวจ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณเลือกเลนส์หรือคอนแทกต์เลนส์ได้เหมาะสม ลดอาการเวียนหัวและตาล้า พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพการมองเห็นให้คมชัดและสบายตาในทุกกิจกรรมของชีวิต

ทำไมการวัดสายตาเบื้องต้นถึงสำคัญกว่าที่คิด
การวัดสายตาเบื้องต้นไม่ได้มีไว้เพียงแค่ตรวจดูว่าคุณมองเห็นชัดหรือไม่เท่านั้น แต่ยังเป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินสุขภาพดวงตาอย่างรอบด้าน ช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติในระยะแรกเริ่ม และป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในอนาคตได้
เพื่อสุขภาพตาระยะยาว
ค่าการมองเห็นที่คลาดเคลื่อนแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักเกินควร ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะและตาล้า ซึ่งหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้สามารถดูแลและรักษาได้อย่างทันท่วงที
เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
การมองเห็นที่ไม่ชัดเจนส่งผลโดยตรงต่อสมาธิ ความแม่นยำ และประสิทธิผลในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตากับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออ่านเอกสารเป็นเวลานาน
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิต
ผู้ที่ต้องขับรถหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งจำเป็นต้องมองเห็นได้ชัดและตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างได้อย่างรวดเร็ว การมองเห็นที่ไม่คมชัดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ประโยชน์ด้านอื่น ๆ
นอกจากนี้ การตรวจวัดสายตายังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น การประเมินแนวโน้มของโรคทางตา การใช้เป็นหลักฐานประกอบการต่อใบอนุญาตขับขี่ หรือแม้แต่การสมัครงานในบางอาชีพที่ต้องการการมองเห็นที่แม่นยำ เช่น นักบิน หรืองานในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องใช้สายตาอย่างละเอียด
การตรวจวัดสายตาเบื้องต้น ขั้นตอนมีอะไรบ้าง ?
การวัดสายตาเป็นกระบวนการที่ผสานทั้งเทคโนโลยีทันสมัยและความเชี่ยวชาญของผู้ตรวจ เพื่อให้ได้ค่าการมองเห็นที่แม่นยำที่สุด โดยขั้นตอนทั่วไปของการวัดสายตามักประกอบด้วยดังนี้
วัดค่าด้วยเครื่องอัตโนมัติ (Auto Refractor)
ขั้นตอนแรกจะใช้เครื่องวัดสายตาอัตโนมัติเพื่อตรวจหาค่าความสั้น ยาว และเอียงของสายตาเบื้องต้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการประเมินสภาพการมองเห็นของดวงตาแต่ละข้าง
ทดสอบการมองเห็นจริง (Visual Acuity Test)
ผู้ตรวจจะให้คุณอ่านตัวอักษรหรือตัวเลขบนแผ่นทดสอบสายตา (Snellen Chart) เพื่อวัดระดับความชัดในการมองเห็น ขั้นตอนนี้ช่วยประเมินความสามารถในการมองเห็นในชีวิตประจำวันและวัดความคมชัดของภาพที่คุณรับรู้
การปรับละเอียดด้วยเลนส์ทดลอง (Subjective Refraction)
หลังจากได้ค่าพื้นฐานแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะใช้แว่นทดสอบ (Trial Frame) ใส่เลนส์ชนิดต่าง ๆ เพื่อค้นหาค่าที่ทำให้การมองเห็นคมชัดและสบายตาที่สุด เป็นการปรับค่าที่ละเอียดและแม่นยำตามการตอบสนองของผู้ตรวจ
ตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น
ในขั้นตอนสุดท้าย แพทย์หรือนักทัศนมาตรจะตรวจดวงตาเพิ่มเติม เช่น วัดความดันลูกตา ตรวจการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อตา หรือสภาพกระจกตา เพื่อคัดกรองความผิดปกติที่อาจส่งผลต่อการมองเห็นในอนาคต
ถอดรหัส “ตัวเลขวัดสายตา” บนใบผลตรวจสายตา
หลังจากตรวจวัดสายตาเสร็จสิ้น แพทย์หรือนักทัศนมาตรจะออกใบผลตรวจที่ประกอบด้วยตัวเลขและคำย่อมากมาย ซึ่งการอ่านค่าสายตาแต่ละค่ามีความหมายเฉพาะและส่งผลโดยตรงต่อการเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับดวงตาของคุณ ดังนี้
OD / OS
ย่อจาก Oculus Dexter และ Oculus Sinister หมายถึง “ตาขวา” และ “ตาซ้าย” ตามลำดับ
SPH (Spherical)
บอกระดับสายตาสั้นหรือยาว โดยค่าลบ (–) หมายถึงสายตาสั้น และค่าบวก (+) หมายถึงสายตายาว
CYL (Cylinder)
แสดงค่าความเอียงของสายตา หากมีค่านี้หมายความว่าคุณมีสายตาเอียง
AXIS (องศา)
ระบุทิศทางของความเอียงในหน่วยองศา เพื่อใช้ในการผลิตเลนส์ให้ตรงกับแนวเอียงของดวงตา
PD (Pupillary Distance)
คือระยะห่างระหว่างรูม่านตาทั้งสองข้าง ข้อมูลนี้สำคัญสำหรับการจัดตำแหน่งศูนย์เลนส์ให้ตรงกับสายตา
ADD (Addition)
ค่าการเสริมเลนส์สำหรับการมองใกล้ มักพบในผู้ที่เริ่มมีอาการสายตายาวตามอายุ
ตัวอย่างเช่น หากใบผลตรวจระบุว่า OD –1.25 / OS –1.00 CYL –0.50 AX 180° หมายถึงคุณมีสายตาสั้นทั้งสองข้างพร้อมสายตาเอียงเล็กน้อย โดยเลนส์จะถูกปรับองศาให้ตรงตามแนวเอียงดังกล่าว
ค่าสายตาปกติควรเป็นเท่าไร ?
โดยทั่วไป ค่าสายตาปกติจะอยู่ใกล้ 0.00 D (±0.25 D ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ) หมายความว่าสามารถมองเห็นได้ชัดทั้งระยะใกล้และไกลโดยไม่ต้องใช้เลนส์ช่วย
อย่างไรก็ดี หากค่ามีค่าน้อยกว่า -0.50 D หรือสูงกว่า +0.50 D ควรเข้ารับการตรวจโดยละเอียด เพื่อประเมินและเลือกเลนส์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน ขับรถบ่อย หรือเล่นกีฬาที่ต้องใช้การมองเห็นอย่างแม่นยำ
ตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดกับเทคโนโลยีระดับโลกที่ ASPEC
การมองเห็นที่ดีเริ่มต้นจาก “การตรวจวัดสายตาที่แม่นยำ” เพราะค่าสายตาที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญในการเลือกเลนส์ที่ช่วยให้คุณมองเห็นได้อย่างคมชัดและสบายตาในทุกสถานการณ์
หากคุณต้องการรับคำปรึกษาหรือจองคิวบริการตรวจสายตาอย่างละเอียด ASPEC พร้อมดูแลด้วยเทคโนโลยี RODENSTOCK DNEye® Scanner 2+ เครื่องมือระดับโลกที่วัดค่าสายตาได้ละเอียดถึง 0.01 Diopter เพื่อออกแบบเลนส์ที่ “ตรงกับดวงตาคุณอย่างแท้จริง” ให้การมองเห็นของคุณคมชัดขึ้นในทุกมิติ และรู้สึกสบายตาทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่สวมใส่
สัมผัสประสบการณ์การตรวจวัดสายตาแบบเฉพาะบุคคลได้แล้ววันนี้ที่ ASPEC ณ ศูนย์การค้า THE CRYSTAL เอกมัย-รามอินทรา ชั้น 1 โซน VERANDA เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. สอบถามรายละเอียดและจองคิวล่วงหน้าได้ที่ โทร. 098-019-4941
ข้อมูลอ้างอิง
- OD vs. OS: How to Read Your Eyeglass Prescription. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568. จาก https://www.healthline.com/health/od-vs-os.
- What Do the Abbreviations and Numbers Mean on Your Eyeglass Prescription?. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568. จาก https://www.healthline.com/health/how-to-read-eye-prescription.

